ข้อมูลอาคารสถานที่
ชื่ออาคาร/สถานที่ : โรงเรียนร่วมใจประสิทธิ์
ปี พ.ศ.ที่สร้าง :
งบประมาณ :
ไฟล์ดาวน์โหลด : -
ข้อมูลเพิ่มเติม :

ชื่อโรงเรียนร่วมใจประสิทธิ์ ที่ตั้ง หมู่ ๑ ตำบลบึงคอไห อำเภอลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี สังกัด สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาปทุมธานี เขต ๒ โทร 02-147-3538 โทรสาร    -    e-mail : ruamjaiphasit@gmail.com website : ruamjaiprasit.ac.th เปิดสอนระดับชั้นอนุบาล ถึงระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖ เนื้อที่ ๕ ไร่ ๑๙ ตารางวา เขตพื้นที่บริการ หมู่ ๑, หมู่ ๒ และ หมู่ ๓ ตำบลบึงคอไห อำเภอลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี

ประวัติโรงเรียนโดยย่อ

                โรงเรียนร่วมใจประสิทธิ์ จัดตั้งขึ้นเมื่อ พ.ศ.๒๔๗๘ โดยนายฮัจยีการีม มานน้อย เป็นผู้จัดตั้งโรงเรียน เพื่อช่วยเหลือการศึกษาประชาบาล เป็นโรงเรียนประชาบาล ประเภทนายอำเภอจัด ตั้งแต่ยังไม่ได้บรรจุครูมาทำการสอน ทางผู้ขอจัดตั้งจึงได้จัดหาครูมาทำการสอนเอง โดยทางอำเภอเป็นผู้ช่วยเหลือด้านหลักสูตรและอุปกรณ์การศึกษา

                ต่อมา พ.ศ.๒๔๘๑ ได้รับงบประมาณบรรจุครูมาทำการสอน และวันที่ ๙  กรกฎาคม  ๒๔๘๑ นายเฉลิม พยานศิลป์ ศึกษาธิการอำเภอในขณะนั้น จึงได้เปิดโรงเรียนอย่างเป็นทางการเป็นครั้งแรกโดยใช้ชื่อโรงเรียนว่า “โรงเรียนประชาบาลบึงคอไห ๔ ” บรรจุครูมาทำการสอน ๒ คน คือ นายทองหล่อ ศรียุคุณธร และนายประยูร ตรีนุสนธิ์ เนื่องจากโรงเรียนยังไม่มีอาคารเรียนจึงอาศัยสุเหร่าเป็นที่ทำการสอน ในวันแรกที่เปิดเรียนนั้นมีนักเรียนทั้งหมด ๕๐ คน ชาย ๓๐ คน หญิง ๒๐ คน

                พ.ศ. ๒๔๘๓ นายหมัด นางเซี๊ยะ สายงาม ได้อุทิศที่ดินให้กับทางโรงเรียนเป็นจำนวน ๔ ไร่ ตั้งอยู่ หมู่ที่ ๑ ตำบลบึงคอไห อำเภอลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี ซึ่งเป็นที่ตั้งของโรงเรียนในปัจจุบันนี้ ห่างจากสุเหร่าที่เรียนเดิมไปทางทิศใต้ ๓๐ เส้น (๑.๒  กิโลเมตร) และได้รับความร่วมมือจากนายฮัจยีการีม มานน้อย นายฮัจยีฮีม บุญธรรม รวมทั้งชาวบ้านช่วยกันเสียสละเงินทำการปลูกสร้างอาคารเรียนชั่วคราว โดยสิ้นเงินในการปลูกสร้างครั้งนี้เป็นเงิน ๑๘๐.- บาท โรงเรียนจึงได้ย้ายมาทำการเรียนการสอน ณ อาคารเรียนชั่วคราวหลังนี้ เปลี่ยนชื่อเป็น “โรงเรียนร่วมใจประสิทธิ์” ต่อมาอาคารเรียนชำรุดทรุดโทรมมาก ในปี พ.ศ. ๒๔๙๘ ได้รับงบประมาณจากทางราชการ จำนวน ๓๐๐๐.- บาท เพื่อใช้ทำการซ่อมแซมให้มีสภาพดีขึ้น

                พ.ศ. ๒๕๑๖ ได้รับงบประมาณ ๑๙๕,๐๐๐.- บาท เพื่อก่อสร้างอาคารเรียน แบบ ป.๑ ข ใต้ถุนสูง ขนาด ๔ ห้องเรียน กว้าง ๘.๕ เมตร ยาว ๓๖ เมตร จำนวน ๑ หลัง

                พ.ศ.๒๕๓๐ ได้รับงบประมาณ จำนวน  ๒๐๐,๐๐๐.- บาท ก่อสร้างอาคารอเนกประสงค์ แบบ สปช.๒๐๒ / ๒๖ จำนวน ๑ หลัง

                พ.ศ.๒๕๓๑ ได้รับงบประมาณ จำนวน ๘๒๘,๐๐๐.- บาท ก่อสร้างอาคารเรียน แบบ สปช. ๑๐๕ / ๒๕๒๖ เป็นอาคาร ๒ ชั้น ขนาด ๖ ห้องเรียน จำนวน  ๑ หลัง

               

                พ.ศ.๒๕๓๗ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงพระเมตตาโปรดเกล้าฯ ให้โรงเรียนร่วมใจประสิทธิ์ เป็นโรงเรียนในพระราชูปถัมภ์ โครงการพระราชดำริ “โครงการด้วยรักและห่วงใย” ซึ่งคณะครู นักเรียน ตลอดจนผู้ปกครองนักเรียนและประชาชนต่างปลาบปลื้มในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้น

                พ.ศ.๒๕๔๑ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้เสด็จพระราชดำเนินเยี่ยมเยียนโรงเรียนและราษฎรเป็นการส่วนพระองค์ เมื่อวันจันทร์ที่ ๒๔ สิงหาคม ๒๕๔๑ เมื่อเวลา ๑๐.๓๐ น. ได้ทอดพระเนตรโครงการ ๖ โครงการ โดยการเสด็จเยี่ยมชมแต่ละโครงการ โดยนางสุวรรณา ทองเกตุ และได้ปฏิสันถารกับคุณหญิงจรัสศรี ทีปิรัส ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี ดร.กษมา วรวรรณ ณ อยุธยา เลขาธิการคณะกรรมการการประถมศึกษาแห่งชาติ นายแสนยา สามไชย ผู้อำนวยการการประถมศึกษาจังหวัดปทุมธานี ข้าราชการ และราษฎร ที่เข้าเฝ้า และเสด็จพระราชดำเนินกลับเมื่อเวลา ๑๑.๔๐ น.

               วันที่ ๑๒ ธันวาคม ๒๕๖๑ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินมาทรงติดตามการดำเนินโครงการตามพระราชดำริ ของโรงเรียนร่วมใจประสิทธิ์ ซึ่งในปี 2536 ได้รับพระมหากรุณาธิคุณให้เข้าร่วมโครงการ "ด้วยรักและห่วงใย" ซึ่งการดำเนินงานประสบผลสำเร็จเป็นอย่างดี ชุมชนและโรงเรียนมีการทำกิจกรรมร่วมกัน ทำให้เกิดความรักและความสามัคคี ส่วนการดำเนินงานของโรงเรียน ได้จัดกิจกรรมตามแผนพัฒนาเด็กและเยาวชนในถิ่นทุรกันดาร ตามพระราชดำริฯ อาทิ กิจกรรมสหกรณ์ มีการสอนทำบัญชีรายรับ-รายจ่าย, การออมทรัพย์ และพาไปศึกษาดูงานตามสถานที่ต่าง ๆ, กิจกรรมยุวเกษตรกร เพื่อส่งเสริมให้สมาชิกมีความรู้ ความสามารถ ฝึกปฏิบัติได้จริง ผ่านกิจกรรมปลูกพืช ประมง และปศุสัตว์ ผลผลิตที่ได้นำไปใช้ในโครงการเกษตรเพื่ออาหารกลางวัน นอกจากนี้ยังได้นำผลผลิตมาแปรรูปจำหน่ายผ่านสหกรณ์ อาทิ ไข่เค็มสมุนไพร น้ำอัญชัญ และกล้วยเบรคแตก ทั้งยังจัดศูนย์การเรียนรู้อิสลามศึกษา โดยมีครูในชุมชนเข้ามาสอนเกี่ยวกับหลักการทางศาสนาอิสลามให้กับนักเรียนและคนในชุมชน มีกิจกรรมน่าสนใจ เช่น การสอนภาษาอาหรับ การทำพิธีละหมาด